ตอนที่ 1
ในย่านที่เงียบสงบ ชายผู้หนึ่งแต่งกายด้วยชุดธุรกิจเรียบง่าย ก้าวเดินไปตามถนนโดยมีถุงสีดำในอ้อมแขน ราวกับปกป้องของมีค่า แต่ท่วงท่าที่เซไปมาเป็นเครื่องบ่งบอกชัดเจนว่าเขาดื่มมาไม่น้อย
รูปร่างของเขาสูงโปร่งและค่อนข้างผอม ซูบผอมจนเห็นได้ชัดว่าการพักผ่อนไม่เพียงพอและภาวะขาดสารอาหารส่งผลต่อร่างกาย แก้มตอบและรอยคล้ำใต้ดวงตาเรียวเล็กของเขาเป็นหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธ
แสงจันทร์สาดส่องผ่านช่องว่างของแนวต้นไม้ที่เรียงรายรอบข้าง เขายังคงเดินโซเซไปข้างหน้า แม้จะสะดุดเป็นระยะ ทว่าจุดหมายปลายทางยังคงอยู่ในใจ
จนกระทั่งฝ่าเท้าของเขาไปกระทบกับขวดพลาสติกเปล่าที่ถูกทิ้งอยู่บนพื้น เขาหยุดชะงัก ดวงตาทอดมองลงต่ำก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนไปเป็นจริงจัง เขาวางถุงสีดำลงกับพื้น ก่อนจะก้มตัวเก็บขวดขึ้นมาในมือขวาอย่างระมัดระวัง
สายตาของเขามุ่งไปยังถังขยะที่อยู่ห่างออกไปราวสิบเมตร ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย
เขาไม่ได้กล่าวอะไรออกมา แต่ภาษากายกลับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คล้ายกับนักรบที่ก้าวเข้าสู่สนามรบ เขาขยับร่างกายให้ไหล่อยู่ในแนวเดียวกับเป้าหมาย ก่อนจะยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ
เขายกเข่าซ้ายขึ้นสูงจนแทบแตะหน้าอก ก่อนจะก้าวเท้าไปข้างหน้าด้วยเท้าขวาที่ปักแน่นดั่งนักขว้างลูกเบสบอลที่ยืนอยู่บนเนินขว้าง ท่วงท่าทั้งหมดเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ ราวกับเป็นสิ่งที่เขาเคยทำมานับครั้งไม่ถ้วน
และเมื่อเท้าซ้ายของเขาสัมผัสพื้น แขนขวาก็สะบัดออกไปอย่างรวดเร็วราวแส้ ฟาดขวดพลาสติกออกจากมือไปสู่เป้าหมาย
“อ๊าก!”
เสียงขวดกระทบพื้นดังก้องไปตามถนนที่เงียบสงัด ขณะที่ร่างของชายผู้นั้นทรุดลงคุกเข่าเพียงไม่กี่เมตรห่างออกไป เขายกมือขึ้นกุมหัวไหล่ขวา พลางกัดฟันแน่นขณะความเจ็บปวดอันคุ้นเคยแล่นไปทั่วร่าง
ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่หลงเหลืออยู่ในร่างจางหายไปในพริบตา ถูกแทนที่ด้วยความทรมานจากบาดแผลเก่าที่หวนคืนมา เขาทำได้เพียงจ้องมองขวดพลาสติกตรงหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธและความหงุดหงิด ราวกับว่ามันกำลังเย้ยหยันเขา
ไม่นานนัก เขาก็เอื้อมมือไปหยิบถุงสีดำขึ้นมาอีกครั้ง ในขณะที่ยังคงกุมหัวไหล่ขวาที่ปวดระบมไว้แน่น ระหว่างเดินผ่านจุดที่ขวดตกอยู่ เขาหยิบมันขึ้นมาและทิ้งลงถังขยะอย่างว่าง่าย แต่ในใจกลับรู้สึกไม่ต่างอะไรจากเศษขยะที่เขากำลังทิ้งไป
จากนั้น เขาก้าวเดินกลับที่พัก ร่างสูงโปร่งของเขาห่อไหล่อย่างสิ้นหวัง
เมื่อมาถึงอพาร์ตเมนต์ เขาคลำหากุญแจในถุงอย่างเหม่อลอย ใต้ตู้รับจดหมายที่ติดอยู่กับผนัง ปรากฏตัวอักษร “Takagi” ที่เขียนไว้ด้วยลายมืออันยุ่งเหยิง
หลังจากค้นหาสักพัก เขาก็พบกุญแจและไขประตูเข้าไปในห้อง เขาก้าวเข้าสู่ความมืดภายในอพาร์ตเมนต์ก่อนจะเปิดไฟ ใช้เท้าปิดประตู และวางถุงลงบนโต๊ะ
อพาร์ตเมนต์ของเขาเป็นแบบสตูดิโอ ทุกอย่างจึงถูกจัดรวมอยู่ในห้องเดียว เว้นแต่ห้องน้ำและห้องซักล้างที่แยกออกไปเป็นสัดส่วน
ราวกับร่างกายเคลื่อนไหวไปเองโดยอัตโนมัติ เขาถอดชุดทำงานออก เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย แล้วเดินไปยังห้องน้ำ แม้ว่าไหล่จะยังปวดอยู่ แต่เขาก็ชินกับมันเสียแล้ว
เขาเพิกเฉยต่อความเจ็บปวด ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นพยายามชำระล้างความเหนื่อยล้าของวัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองกระจก ภาพที่สะท้อนกลับมาเป็นใบหน้าของชายคนหนึ่ง—ใบหน้าที่เขาแทบไม่อาจจำได้อีกต่อไป
แก้มที่ตอบซูบและจมูกที่เรียวบาง ประกอบกับรอยคล้ำใต้ดวงตาเรียวเล็กของเขา ทำให้ภาพสะท้อนในกระจกดูไม่ต่างอะไรจากคนที่กำลังเดินอยู่บนเส้นด้ายระหว่างความสิ้นหวังและการพังทลาย เขาไม่อาจทนมองตัวเองได้นานนัก เพียงไม่กี่วินาทีเขาก็ละสายตาออกและเดินออกจากห้องน้ำตรงไปยังเตียง
อีกฟากหนึ่งของห้อง มีโทรทัศน์ขนาด 32 นิ้วตั้งอยู่บนตู้ เขาหยิบรีโมตขึ้นมา เปิดโทรทัศน์โดยไม่คิดอะไรมากนัก เป็นเพียงนิสัยเดิมที่เขาทำเป็นประจำเพื่อให้มีเสียงพื้นหลังขณะเลื่อนดูโทรศัพท์
ทันทีที่เปิดโทรศัพท์ หน้าจอก็แจ้งเตือนข้อความเข้ามา
แม่: เคน แม่กับพ่อเป็นห่วงลูกนะ ทำไมถึงไม่ติดต่อกันเลยมากว่าหนึ่งเดือนแล้ว? ได้โปรดโทรกลับมาหาแม่ทันทีที่เห็นข้อความนี้
เคน ทาคากิ กวาดสายตามองข้อความบนหน้าจอครู่หนึ่งก่อนจะปิดมันลง เขาไม่มีอารมณ์จะคุยกับพ่อแม่ตอนนี้ โดยเฉพาะเมื่อไหล่ของเขายังคงปวดระบมไม่หาย
“พรุ่งนี้ค่อยโทรกลับก็แล้วกัน” เขาพึมพำกับตัวเอง เป็นประโยคที่เขาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาตลอดเดือน แต่ไม่เคยทำตามสักครั้ง
ขณะที่เขากำลังจะเปิดเกมมือถือยอดนิยมเล่น ความสนใจของเขากลับถูกดึงไปยังโทรทัศน์
“ในข่าวกีฬา ทีมฮันชิน ไทเกอร์ส สามารถพลิกสถานการณ์เอาชนะทีมโยมิอูริ ไจแอนต์ส คว้าแชมป์นิปปอน ซีรีส์เป็นสมัยที่สองในประวัติศาสตร์ของสโมสร!”
ดวงตาของเคนเบิกกว้างเมื่อได้ยินข่าวนี้ เขารีบยกขาขึ้นจากเตียง นั่งตัวตรง พร้อมจ้องหน้าจอโทรทัศน์อย่างตั้งใจ ขณะที่ไฮไลต์การแข่งขันกำลังถูกฉายซ้ำ
“อย่างที่เห็น ทีมไจแอนต์สขึ้นนำอยู่สองแต้มในอินนิงที่ 9 เหลือเพียงอีกแค่หนึ่งเอาต์ก็จะคว้าแชมป์ไปครอง สิ่งเดียวที่ขวางพวกเขาอยู่คือหนุ่มน้อย ดาอิจิ ซูซูกิ!”
ภาพของชายหนุ่มที่ยังดูคล้ายเด็กวัยรุ่นก้าวขึ้นสู่แท่นตี ไหล่กว้างและใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของเขาทำให้ดูราวกับซูเปอร์ฮีโร่ในช่วงเวลานั้น เคนจ้องหน้าจอแน่วแน่ ในแววตาเต็มไปด้วยความคุ้นเคย
ผู้ขว้างลูกขยับตัว ปล่อยลูกคัตเตอร์โค้งสูงเข้าใกล้ตัวหวังบีบให้คู่ต่อสู้ออกห่างจากแท่นตี
“ฮ่าๆ! นั่นมันลูกโปรดของเขาเลยนี่!” เคนตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น ความเร้าใจแล่นพล่านไปทั่วร่าง ราวกับอะดรีนาลีนที่เขาไม่ได้สัมผัสมานานพุ่งขึ้นสูงอีกครั้ง